Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/44279
Title: ประสิทธิผลของการปฏิบัติการพยาบาลต่อผลลัพธ์ทางสุขภาพผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง : การวิเคราะห์อภิมาน
Other Titles: The Effectiveness of nursing interventions on health outcomes in patients with chronic obstructive pulmonary disase : a meta analysis
Authors: วารุณี ฉวีศักดิ์
Advisors: ชนกพร จิตปัญญา
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะพยาบาลศาสตร์
Advisor's Email: [email protected]
Subjects: ปอดอุดกั้น -- การพยาบาล
การพยาบาล -- วิจัย
การวิเคราะห์อภิมาน
Lungs -- Diseases, Obstructive -- Nursing
Nursing -- Research
Meta-analysis
Issue Date: 2550
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: การวิจัยอภิมานครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ 1) ศึกษาคุณลักษณะของงานวิจัยที่เกี่ยวกับการปฏิบัติการพยาบาลของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง 2) ศึกษาประสิทธิผลของการปฏิบัติการพยาบาลต่อผลลัพธ์ทางสุขภาพด้านร่างกาย ด้านอาการ ด้านพฤติกรรม ด้านจิตใจ และผลลัพธ์ทางสุขภาพอื่น ๆ และ3) ศึกษาคุณลักษณะของงานวิจัยที่มีผลต่อความแปรปรวนของค่าขนาดอิทธิพลของการปฏิบัติการพยาบาลต่อผลลัพธ์ทางสุขภาพของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โดยศึกษาจากงานวิจัยและวิทยานิพนธ์ของประเทศไทย ระหว่างปี พ.ศ. 2528 - 2550 จำนวน 37 เรื่อง รวบรวมข้อมูลคุณลักษณะด้านข้อมูลพื้นฐาน ระเบียบวิธีวิจัย เนื้อหาสาระของงานวิจัย นำไปวิเคราะห์ตามวิธีของ Glass, McGaw & Smith (1981) ได้ค่าขนาดอิทธิพล 67 ค่า ผลการวิจัยอภิมาน สรุปได้ดังนี้ 1. งานวิจัยส่วนใหญ่เป็นวิทยานิพนธ์ระดับมหาบัณฑิต (91.90%) มีการใช้กรอบแนวคิดที่ชัดเจน (86.50%) ใช้การคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง (81.10%) มีขนาดกลุ่มตัวอย่างอยู่ระหว่าง 1-30 คน (62.20%) เครื่องมือวัดตัวแปรของงานวิจัยที่นำมาสังเคราะห์ ส่วนใหญ่มีการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือทั้งความตรงและความเที่ยง (51.40%) คุณภาพโดยรวมของงานวิจัยส่วนใหญ่อยู่ในระดับดี (83.80%) การปฏิบัติการพยาบาลที่นำมาศึกษามากที่สุด คือ การปฏิบัติการพยาบาลแบบองค์รวม (40.50%) โดยส่วนใหญ่เป็นโปรแกรมการฟื้นฟูสมรรถภาพปอด (16.20%) ผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ศึกษามากที่สุด คือ ผลลัพธ์ด้านร่างกาย (25.37%) โดยศึกษาความสามารถในการออกกำลังกายมากที่สุด (64.70%) 2. ค่าขนาดอิทธิพลของการปฏิบัติการพยาบาลต่อผลลัพธ์ทางสุขภาพโดยรวมมีขนาดใหญ่ (d = 1.76) โดยผลลัพธ์ด้านพฤติกรรมให้ค่าขนาดอิทธิพลสูงที่สุด (d = 7.33) การปฏิบัติการพยาบาลด้านการคิดรู้ให้ค่าขนาดอิทธิพลสูงที่สุด (d = 7.01) 3. ระยะเวลาที่เลิกสูบบุหรี่ของผู้ป่วยมีผลต่อความแปรปรวนของค่าขนาดอิทธิพลของการปฏิบัติการพยาบาลต่อผลลัพธ์ทางสุขภาพของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง สามารถพยากรณ์ความแปรปรวนของค่าขนาดอิทธิพลของการปฏิบัติการพยาบาลต่อผลลัพธ์ทางสุขภาพของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ได้ร้อยละ 9.4
Other Abstract: The purposes of this meta-analysis were 1) to study methodological and substantive characteristics of nursing interventions on health outcomes of patients with chronic obstructive pulmonary disease; 2) to study effectiveness of nursing interventions on health outcomes of patients with chronic obstructive pulmonary disease; and 3) to study the influence of methodological and substantive characteristics on the effect size. Thai thirty-seven master thesis published during 1985 to 2007 was recruited and then, was analyzed for methodological and substantive characteristics. Effect sizes were calculated for each study using the method of Glass, McGaw & Smith (1981). This meta - analysis yielded 67 effect sizes. Results were as followings: 1. The majorities of the studies were master's thesis (91.90%) Most of the studies reported conceptual framework (86.50%); used purpose sampling (81.10%); had sampling size during 1-30 persons (62.20%); and owed good quality (83.80%). Most of the instruments were tested for reliability and validity (51.40%). Most of nursing interventions were holistic interventions (40.50%). Most of health outcomes measured was functional health outcomes (25.37%). 2. Nursing interventions had the large effect-size on health outcomes (d = 1.76). Nursing interventions had highest of effect-size on behavioral health outcomes (d = 7.33). Cognitive intervention had the highest of effect-size on health outcomes (d = 7.01). 3. The time of smoking cessations was the variable that significantly predicted effect size at the level of .05. The predictive power was 9.4% of the variance.
Description: วิทยานิพนธ์ (พย.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2550
Degree Name: พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level: ปริญญาโท
Degree Discipline: การพยาบาลผู้ใหญ่
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/44279
URI: http://doi.org/10.14457/CU.the.2007.531
metadata.dc.identifier.DOI: 10.14457/CU.the.2007.531
Type: Thesis
Appears in Collections:Nurse - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Varunee__Ch.pdf1.96 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.