การพัฒนาอาหารสำเร็จรูปสำหรับหอยเป๋าฮื้อ Haliotis asinina Linne.

Abstract

ปัจจุบันประเทศไทยทำการเพาะเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อได้สำเร็จ แต่สาหร่ายที่ใช้เป็นอาหารไม่เพียงพอ จึงมีความจำเป็นต้องมีการพัฒนาอาหารสำเร็จรูปหอยเป๋าฮื้อขึ้นเพื่อทดแทนอาหารธรรมชาติ เพื่อให้การเพาะเลี้ยงดำเนินต่อไปได้ การวิจัยนี้มุ่งศึกษาถึงกรรมวิธีการผลิตอาหารสำเร็จรูป 2 รูปแบบ คือแบบเม็ดและแบบเคลือบ ศึกษาอัตราการเจริญเติบโต อัตราการรอดตาย ประสิทธิภาพการแลกเนื้อ และผลกระทบของอาหารที่ใช้ต่อคุณภาพน้ำในบ่อเลี้ยง การทดลองอาหารดำเนินการ 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ทดลองรูปแบบของอาหาร (อาหาร 2 สูตร) ทดลองระหว่าง ต.ค.-ธ.ค. 2535 และครั้งที่ 2 ทดลองปรับปรุงอาหารเม็ด (ทดลองอาหาร 3 สูตร) ทดลองระหว่าง มี.ค.-เม.ย. 2536 การทดลองกระทำที่ศูนย์พัฒนาการประมงทะเลฝั่งตะวันออก จ.ระยอง โดยทำกระชังขนาด 37 x 25 x 38 ลบ.ซม. เลี้ยงในบ่อซีเมนต์ 2.80 x 1.20 x 0.69 ลบ.ม. ทำการทดลอง 8 สัปดาห์ ใช้อาหารเม็ดญี่ปุ่นเป็นกลุ่มเปรียบเทียบ (สูตร 5) ผลการทดลองครั้งที่ 1 ปรากฏผลว่าอาหารเคลือบให้ผลการทดลองดีกว่าอาหารเม็ดให้ผลการเจริญเติบโตเฉลี่ยโดยน้ำหนักและความยาวเปลือกเฉลี่ยของอาหาร สูตร 1,2,3,4,5 เท่ากับ 6.41, 14.48, 12.75, 9.94, 41.61 มิลลิกรัมต่อวัน และ 40.28, 46.23, 57.60 49.08, 117.45 ไมโครเมตรต่อวัน อัตรารอดตายของลูกหอยเป๋าฮื้อเท่ากับ 100, 100, 100, 98.33, 100 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ประสิทธิภาพการแลกเนื้อเท่ากับ 0.20, 0.36, 0.59, 0.37, 0.93 ตามลำดับ ผลการทดลองครั้งที่ 2 ทดลองอาหารเม็ด 4 สูตร คือ สูตร 6, 7, 8 และ 5 ได้ผลอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยและความยาวเปลือกเท่ากับ 8.30, 1.96, 2.38, 23.57 มิลลิกรัมต่อวัน และ 44.38, 20.89, 17.32, 93.75 ไมโครเมตรต่อวันตามลำดับอัตราการรอดตายเท่ากับ 100, 95, 98.33 และ 98.33 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ประสิทธิภาพการแลกเนื้อเท่ากับ 0.23, 0.03, 0.08, 0.61 ตามลำดับ ในการทดลองครั้งนี้ไม่มีผลกระทบของอาหารต่อคุณภาพน้ำในการเลี้ยงทั้งสอง การทดลองสรุปได้ว่าอาหารเคลือบและอาหารสูตร 6 ให้ผลดีที่สุด และสามารถนำมาปรับปรุงคุณภาพอาหารให้ดีขึ้นได้