Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/6569
Title: | การตรวจหาชนิดของพิษงูกะปะ Calloselasma rhodostoma และพิษงูเห่า Naja kaouthia ด้วยวิธีดอต-อิไลซา |
Other Titles: | Detection of snake venom from Calloselasma rhodostoma and Naja kaouthia by dot-Elisa |
Authors: | กิตติพันธุ์ รุ่งเรืองสาร |
Advisors: | ธีรยุทธ วิไลวัลย์ ศุภศร วนิชเวชารุ่งเรือง นฤมล พักมณี |
Other author: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิทยาศาสตร์ |
Advisor's Email: | [email protected] [email protected] [email protected] |
Subjects: | พิษงู แกมมาโกลบุลิน เอนไซม์ลิกค์อิมมูโนซอร์เบนท์แอสเส งูเห่า งูกะปะ |
Issue Date: | 2545 |
Publisher: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract: | การรักษาผู้ป่วยที่ถูกงูพิษกัดโดยการให้เซรุ่มที่จำเพาะต่อพิษงูนั้นจำเป็นจะต้องทราบชนิดของพิษงูที่แน่นอน วิธีหนึ่งที่ใช้ในการตรวจสอบชนิดของพิษงู คือการใช้ ELISA (enzyme-linked immunosorbent assay) แต่เทคนิคนี้มีข้อเสียคือใช้เวลานานและต้องใช้เครื่องมือราคาแพง ในการศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาวิธีการตรวจพิษงูโดยเทคนิคดอต-อิไลซาบนกระดาษไนโตรเซลลูโลสโดยใช้พิษงูกะปะ Calloselasma rhodostoma และพิษงูเห่า Naja kaouthia เป็นต้นแบบ, ได้มีการปรับเปลี่ยนตัวแปรต่างๆ ได้แก่วิธีการทำแกมมาโกลบูลินที่จำเพาะต่อพิษงูให้บริสุทธิ์, เวลาของการบ่มและล้าง, ปริมาตรและความเข้มข้นของรีเอเจนต์และสับสเตรตสำหรับการตรวจสอบด้วยเอนไซม์ที่ใช้จนกระทั่งได้สภาวะที่เหมาะสม ผลการศึกษาด้วยวิธีดอต-อิไลซา สามารถตรวจระดับพิษงูกะปะได้ที่ 5 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตรและตรวจระดับพิษงูเห่าได้ที่ 1 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตรและไม่พบปฏิกิริยาข้ามกลุ่ม (cross-reaction) ระหว่างพิษงูกะปะและพิษงูเห่าที่ระดับพิษ 0.2-25 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร เมื่อเทียบกับวิธี ELISA ที่ทำในไมโครเพลต ซึ่งตรวจระดับพิษงูกะปะและพิษงูเห่าได้ที่ 1 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร พบว่าวิธีที่พัฒนาขึ้นยังมีประสิทธิภาพต่ำกว่ามาก อย่างไรก็ตามวิธีดอต-อิไลซาที่พัฒนาขึ้นนี้ใช้เวลาตรวจสอบสั้นและไม่ต้องการเครื่องมือราคาแพงจึงอาจนำไปใช้ในภาคสนามได้ |
Other Abstract: | Treatment of snake-bite using species-specific antivenoms requires identification of the snake venom. One method to achieve this is to use ELISA (enzyme-linked immunosorbent assay) technique. However, this method has some disadvantages including long incubation time and the requirement of expensive instruments. The objective of this study is to develop a practical method for detection of snake venom by dot-ELISA on nitrocellulose paper using Calloselasma rhodostoma and Naja kaouthia venoms as models. Several parameters including purification method of anti-venom lgG, time for incubation and washing, volume and concentration of reagents and substrate for enzymatic detection were optimized. The sensitivity of the detection was 5 mu g/mL for Calloselasma rhodostoma and 1 mu g/mL for Naja kaouthia. No cross-reaction between the two snake venoms was observed between 0.2-25 mu g/mL. For comparison, the same ELISA were performed in microtiter plates and showed detection limit of 1 ng/mL for Calloselasma rhodostoma and Naja kaouthia venoms. In spite of poorer sensitivity, the developed dot-ELISA technique is much less time consuming and requires no special instrument which might be advantageous for field-test. |
Description: | วิทยานิพนธ์ (วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2545 |
Degree Name: | วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree Level: | ปริญญาโท |
Degree Discipline: | เทคโนโลยีชีวภาพ |
URI: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/6569 |
ISBN: | 9741715382 |
Type: | Thesis |
Appears in Collections: | Sci - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Kittiphan.pdf | 1.51 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.