Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/67643
Title: ตัววัดทางหัวใจในการทำนายผลลัพธ์ทางระบบหายใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายฉับพลัน
Other Titles: Cardiac markers for prediction of cardiovascular outcome in Acute St elevation myocardial infarction patients
Authors: วิสิษฐ์ วิจิตรโกสุม, 2515-
Advisors: ถาวร สุทธิไชยากุล
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะแพทยศาสตร์
Advisor's Email: [email protected]
Subjects: กล้ามเนื้อหัวใจตาย
กล้ามเนื้อหัวใจตาย -- ผู้ป่วย
เครื่องบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
ระบบหายใจ
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
Myocardial infarction
Myocardial infarction -- Patients
Electrocardiographs
Respiratory organs
Cardiovascular system
Issue Date: 2548
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: ที่มาของงานวิจัย: จำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย รวมทั้งผู้ที่รอดชีวิต พบว่ามีจำนวนมากขึ้นทำให้ภาวะแทรกซ้อนทางระบบหัวใจและหลอดเลือด ภายหลังการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเพิ่มมากขึ้นด้วย มีการศึกษาถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งในระยะปานกลางและระยะยาวในผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจตายฉับพลันจำนวนมาก พบว่ามีความสัมพันธ์ของตัววัดทางหัวใจ หรือปัจจัยที่เกี่ยวข้องในกลุ่มผู้ป่วยหัวใจขาดเลือดกับภาวะแทรกซ้อนทางระบบหัวใจและหลอดเลือด แต่ยังไม่มีการศึกษาในกลุ่มผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจตายฉบับพลันที่มีความเสี่ยงต่ำ วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างตัววัดทางหัวใจ และการเกิดผลลัพธ์ ทางระบบหัวใจและหลอดเลือดในระยะเวลา 60 วันหลังเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายฉับพลัน วิธีการดำเนินการ: ผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจตายฉับพลันที่มีอาการไม่รุนแรงจำนวน 34 ราย ที่เข้ารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ในระหว่าง ตุลาคม 2547 ถึง พฤศจิกายน 2548 โดยการจัดเก็บตัวอย่างเลือด เพื่อตรวจระดับ NT proBNP, hsCRP และ troponin T จำนวน 2 ครั้ง (24 ชั่วโมง และ วันที่ 14 หลังเกิดอาการ), ประเมินการทำงานของหัวใจห้องล่างซ้ายด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง (echocardiogram) ทำการวิเคราะห์ผลลัพธ์ทางระบบหัวใจและหลอดเลือด (เสียชีวิต, ภาวะหัวใจวาย และ การเข้ารักษาตัวซ้ำด้วยอาการเจ็บหน้าอก) ภายในระยะเวลา 60 วัน ภายหลังเกิดอาการเจ็บแน่นอก ผลการศึกษา: ผู้ป่วยที่เข้าร่วมการวิจัยทั้งสิ้น 34 ราย อายุเฉลี่ย 56.85 ปี (S.D. = 12.72) ปัจจัยเสี่ยงทางหัวใจและหลอดเลือดที่พบมากที่สุดคือ ภาวะไขมันในเลือดสูง (ร้อยละ 67.6) และการสูบบุหรี่ (ร้อยละ 5.9) การทำงานหัวใจห้องล่างซ้ายเฉลี่ยร้อยละ 56.2 (S.D. = 8.4) พบ 6 รายมี cardiovascular outcomes (3 รายมีการเจ็บหน้าอกซ้ำ, 2 ราย เสียชีวิต และ 1 ราย เกิดภาวะหัวใจวาย) ระดับของ NT proBNP ในเลือดเฉลี่ยเท่ากับ 978.03 pg/L(16-6883), ระดับของ hsCRP ในเลือดเฉลี่ยเท่ากับ 9.18 mg/L (0.7-40.1) ระดับ troponin T เท่ากับ 7.39 ng/mL (0.1-21.26) เมื่อวิเคราะห์ ความสัมพันธ์ระหว่าง ระดับ NT proBNP ที่ 24 ชั่วโมงแรก และวันที่ 14 หลังเกิดอาการ กับผลลัพธ์ทางระบบหัวใจและหลอดเลือดแล้ว พบว่า ส่วนใหญ่มีความสัมพันธ์กันแต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.638, 0.617)
Other Abstract: Background : The increasing incidence of myocardial infarction (MI) and improved post-MI survival have led to an increase in the incidence of post-MI complication. The intermediate and long term outcome of patients with acute ST elevation myocardial infarction (acute STEMI) have been extensively studied. The incidence of cardiovascular events were frequently detected. The recent studies have shown the correlation of cardiac markers and acute coronary syndrome (Non-ST elevation MI) outcome but have not been study for low risk acute ST elevation MI group. Objective: This study just to assess the correlation of cardiac markers (NT-proBNP) and 60-day cardiovascular outcomes in low risk acute STEMI. Material and Method: Between December 2003 – November 2004, 34 consecutive cases with diagnosis of low risk acute ST elevation MI at King Chulalongkorn Memorial Hospital, were enrolled. Venous blood for cardiac markers (NT-proBNP, shCRP and troponin T) and LV function evaluation were measured at baseline (within 24 hours and day 14 [superscriptth]). Death, recurrent angina and heart failure were recorded for primary outcome during 60 days of follow-up. Result : From 34 consecutive cases, mean age was 56.85 years S.D. = 12.72. The most common caused of cardiovascular risk factors were dyslipidemia 23 (67.6%) and smoking 19 (55.9%). Mean left ventricular ejection fraction (LVEF) were 56.2% S.D. = 8.40. There were 6 cases had positive cardiovascular outcomes (3 cases for recurrent angina, 2 cases for deaths and 1 case for heart failure). The mean of first 24-hour NT-proBNP level was 978.03 pg/L (16-6883), hsCRP was 9.18 mg/L (0.7-40.1) and troponin T was 7.39 ng/mL (0.1-21.26). After the independent factors adjustment, no statistically significant correlation of NT-proBNP (first 24-hour and day 14) and cardiovascular outcomes was noted (p = 0.638 and 0.617). Conclusion: For this study showed no statistically significant correlation between cardiac markers and cardiovascular outcomes at 60 days for the patients with acute ST elevation myocardial infarction. Further study with more population should be performed.
Description: วิทยานิพนธ์ (วท.ม.) -- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2548
Degree Name: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level: ปริญญาโท
Degree Discipline: อายุรศาสตร์
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/67643
ISSN: 9741744633
Type: Thesis
Appears in Collections:Med - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Wisit_wi_front_p.pdfหน้าปก บทคัดย่อ และสารบัญ906.79 kBAdobe PDFView/Open
Wisit_wi_ch1_p.pdfบทที่ 1700.69 kBAdobe PDFView/Open
Wisit_wi_ch2_p.pdfบทที่ 2969.69 kBAdobe PDFView/Open
Wisit_wi_ch3_p.pdfบทที่ 31.01 MBAdobe PDFView/Open
Wisit_wi_ch4_p.pdfบทที่ 41.7 MBAdobe PDFView/Open
Wisit_wi_ch5_p.pdfบทที่ 5981.76 kBAdobe PDFView/Open
Wisit_wi_ch6_P.pdfบทที่ 6661.95 kBAdobe PDFView/Open
Wisit_wi_back_p.pdfรายการอ้างอิง และภาคผนวก907.74 kBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.