Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/67709
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorพฤทธิ์ ศิริบรรณพิทักษ์-
dc.contributor.advisorสุวิมล ว่องวาณิช-
dc.contributor.authorณัชนัน ศุภสิริสุข-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะครุศาสตร์-
dc.date.accessioned2020-08-25T08:49:21Z-
dc.date.available2020-08-25T08:49:21Z-
dc.date.issued2552-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/67709-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (ค.ด.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2552en_US
dc.description.abstractการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ คือ (1) เพื่อกำหนดองค์ประกอบของภาวะผู้นำแบบชื่นชมตนเองสำหรับใช้ในการพัฒนาเครื่องมือประเมินตนเอง (2) เพื่อพัฒนาวิธีการพัฒนาตนเอง และ (3) เพื่อพัฒนาคู่มือการประเมินและพัฒนาตนเองด้านภาวะผู้นำแบบชื่นชมตนเองสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาวิธีวิจัยเป็นการวิจัยและพัฒนา ระยะการวิจัย ได้พัฒนาคู่มือการประเมินและพัฒนาตนเอง โดยใช้การวิจัยเอกสารเพื่อกำหนดองค์ประกอบของภาวะผู้นำแบบชื่นชมตนเอง เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาเครื่องมือประเมิน และออกแบบวิธีการพัฒนาตนเอง และใช้การวิจัยสำรวจเพื่อวิเคราะห์คุณภาพของเครื่องมือประเมินด้วยข้อมูลเชิงประจักษ์ และวิเคราะห์ระดับของภาวะผู้นำแบบชื่นชมตนเองในกลุ่มผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานซึ่งได้ให้ข้อมูลในการวิจัยนี้จำนวน 499 คน ระยะการพัฒนา นำคู่มือการประเมินและพัฒนาตนเองไปทดลองใช้โดยใช้การวิจัยกรณีศึกษา กรณีศึกษาเป็นผู้บริหารสถานศึกษาที่เข้าร่วมในการวิจัยด้วยความสมัครใจจำนวน 8 คน การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติภาคบรรยาย ได้แก่ ความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน คะแนนเปอร์เซ็นไทล์ สถิติภาคสรุปอ้างอิง ได้แก่ การทดสอบค่าที การทดสอบความแปรปรวน และการวิเคราะห์ไขว้ ผลการวิจัยเพื่อพัฒนาคู่มือการประเมินและพัฒนาตนเอง จากการวิจัยเอกสารสามารถกำหนดองค์ประกอบของภาวะผู้นำแบบชื่นชมตนเองตามองค์ประกอบของภาวะผู้นำแบบเปลี่ยนสภาพผสมกับองค์ประกอบของบุคลิกภาพด้านภาวะชื่นชมตนเองได้ 5 องค์ประกอบ คือ คุณลักษณะการมีอิทธิพลอย่างมีอุดมการณ์แบบชื่นชมตนเอง พฤติกรรมการมีอิทธิพลอย่างมีอุดมการณ์แบบชื่นชมตนเอง การสร้างแรงบันดาลใจแบบชื่นชมตนเอง การกระตุ้นทางปัญญาแบบชื่นชมตนเอง และการคำนึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคลแบบชื่นชมตนเอง เครื่องมือประเมินตนเองที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วยข้อรายการแบบมาตรประมาณค่า 4 ระดับ จำนวน 20 ข้อ มีความตรงเชิงเนื้อหาจากการตรวจสอบของผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาที่เกี่ยวข้องจำนวน 16 คน ผลการวิเคราะห์คุณภาพเครื่องมือพบว่ามีค่าอำนาจจำแนกรายข้อระหว่าง 0.7741-0.8868 ค่าความเที่ยงแบบความสอดคล้องภายในทั้งฉบับเท่ากับ 0.9782 มีความตรงเชิงโครงสร้างจากผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจ และมีการสร้างเกณฑ์ปกติวิสัยโดยใช้คะแนนเปอร็เซ็นไทล์สำหรับแปลผลระดับภาวะผู้นำแบบชื่นชมตนเองของผู้บริหารโรงเรียนจากกลุ่มตัวอย่าง 499 คนที่ได้จากการสำรวจด้วยแบบสอบถาม ผลการทดลองใช้คู่มือจากการวิจัยกรณีศึกษาพบว่าวิธีการพัฒนาตนเองด้านภาวะผู้นำแบบชื่นชมตนเองที่ใช้แนวคิดการกำกับตนเองด้วยวิธีการบันทึกอนุทินในการวิจัยนี้ได้ผลน่าพอใจ ข้อมูลจากการสะท้อนตนเองของกรณีศึกษาในสมุดบันทึกพฤติกรรมประมาณ 1-2 เดือน ชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของภาวะผู้นำแบบชื่นชมตนเอง ประมาณร้อยละ 23.05 โดยเฉพาะในองค์ประกอบด้านการกระตุ้นทางปัญญา ผลการตรวจสอบคุณภาพของคู่มือจากผู้ทรงคุณวุฒิและกรณีศึกษาพบว่ามีความเหมาะสมมากen_US
dc.description.abstractalternativeThree objectives of this research were (1) to determine the components of narcissistic leadership and develop self-evaluation instruments; (2) to develop self-development method; and (3) to develop a manual for self-evaluation and development in narcissistic leadership for school administrators. The study used research and development method. At the research phase, the manual was developed by using documentary research to determine and construct narcissistic leadership components, evaluation instruments, and development method. Survey research was used to examine the quality of the evaluation instruments based on empirical data, analyze narcissistic leadership level of 499 school administrators from the office of basic education commission. At the development phase, case study research was employed to pilot the developed manual with 8 voluntary school administrators. Qualitative data were analyzed using content analysis. Quantitative data were analyzed through use of descriptive statistics, i.e. frequencies, mean, standard deviations, percentile; and inferential statistics using t-test, ANOVA, and cross-tabulation analysis. The results of the research phase study based on documentary analysis presented five component of narcissistic leadership based on transformational leadership theory integrated with narcissistic personality characteristics. The five subcomponents included idealized influence attributes, idealized influence behaviors, inspirational motivation, intellectual stimulation, and individualized consideration. The developed self-evaluation instruments consisted of 20 five-rating scale items. The content validity of the instruments was determined by 16 experts in the related fields. Based on quantitative analysis, it was found that item discriminations of the instruments ranged between 0.7741-0.8868. Internal consistency reliability was 0.9782. The instruments also had construct validity as a result of factor analysis. Percentile norm was developed for interpreting narcissistic leadership level of the school administrators based on 499 samples from the questionnaire survey. The pilot study based on the case study research showed that self-development method using self-regulation approach through diary method yielded satisfactory results. Within 1-2 months, data reflected in diary recording forms of the case studies indicated the increased changes in narcissistic leadership (23.05%), particularly in intellectual stimulation component. Result also showed that the developed manual was appropriate based on the opinions of experts and case studiesen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.relation.urihttp://doi.org/10.14457/CU.the.2009.780-
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.subjectภาวะผู้นำen_US
dc.subjectผู้บริหารโรงเรียนen_US
dc.subjectปริญญาดุษฎีบัณฑิตen_US
dc.subjectLeadershipen_US
dc.subjectSchool administratorsen_US
dc.titleการพัฒนาคู่มือการประเมินและพัฒนาตนเองด้านภาวะผู้นำแบบชื่นชมตนเองของผู้บริหารโรงเรียนen_US
dc.title.alternativeDevelopment of a manual for self evaluation and development in narcissistic leadership of school administratorsen_US
dc.typeThesisen_US
dc.degree.nameครุศาสตรดุษฎีบัณฑิตen_US
dc.degree.levelปริญญาเอกen_US
dc.degree.disciplineบริหารการศึกษาen_US
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.email.advisor[email protected]-
dc.email.advisor[email protected]-
dc.identifier.DOI10.14457/CU.the.2009.780-
Appears in Collections:Edu - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Nachanan_su_front_p.pdf1.14 MBAdobe PDFView/Open
Nachanan_su_ch1_p.pdf1.24 MBAdobe PDFView/Open
Nachanan_su_ch2_p.pdf4.92 MBAdobe PDFView/Open
Nachanan_su_ch3_p.pdf2.22 MBAdobe PDFView/Open
Nachanan_su_ch4_p.pdf4.95 MBAdobe PDFView/Open
Nachanan_su_ch5_p.pdf2.19 MBAdobe PDFView/Open
Nachanan_su_back_p.pdf7.79 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.