Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/70811
Title: | ปัจจัยต่างๆ ที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะของกระบวนการตกผลึกซัลเฟต ในน้ำเกลือแกง |
Other Titles: | Factors affecting performance of sulfate crystallization in sodium chloride brine |
Authors: | ไชยันต์ ยั่งยืนตระกูล |
Advisors: | ชัยฤทธิ์ สัตยาประเสริฐ พิเศษ เลิศวิไล |
Other author: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย |
Advisor's Email: | [email protected] ไม่มีข้อมูล |
Subjects: | การตกผลึก ซัลเฟต น้ำเกลือ Crystallization Sulfates Saline |
Issue Date: | 2540 |
Publisher: | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
Abstract: | กระบวนการตกผลึกโดยการตกตะกอนแคลเซียมซัลเฟตในน้ำเกลือแกงได้ถูกศึกษาด้วยเครื่องปฏิกรณ์ตกผลึก ชนิด Mixed Suspension Mixed Product Removal ที่สภาวะต่าง ๆ คือ อุณหภูมิ 40, 55 และ 70 องศาเซลเซียส ความเข้มข้น แคลเซียมคลอไรด์ 2.5, 3.0 และ 3.5 กรัม/ลิตร และเวลาที่อยู่ในถังปฏิกรณ์ (Residence time) 20, 30 และ 50 นาที สมดุลย์ ความหนาแน่นประชากรอนุภาคสามารถกำหนดอัตราการเติบโต อัตราการเกิดแกนผลึก และอันดับทางจลนศาสตร์ได้ เครื่องมือวิเคราะห์การกระจายขนาดอนุภาคชนิด Particle Size Laser ถูกใช้ในงานวิจัย ข้อมูลผลการวัดการกระจายขนาดอนุภาคที่ได้แสดงผลการวัดเป็นเปอร์เซนต์ปริมาตรแต่สามารถนำมาแปรผลเป็นข้อมูลความหนาแน่นประชากรได้ ผลการศึกษาพบว่าเครื่องปฏิกรณ์ตกผลึกเดินเครื่องที่สภาวะความหนาแน่นตะกอนผลึกต่ำ การกระจายขนาดของอนุภาคอยู่ในช่วงแคบ ๆ (0.7 ถึง 0.9 ไมครอน) อัตราการเติบโตของผลึกมิค่าต่ำอยู่ในช่วง 0.01 ถึง 0.03 ไมครอน/นาที และอัตราการเกิดแกนผลึกอยู่ในระดับ 106 อนุภาค/มิลลิลิตร-นาที แบบจำลองทางคณิตศาสตร์เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่าง อัตราการเติบโตและอัตราการเกิดแกนผลึกที่อุณหภูมิคงที่ให้อันดับทางจลนศาสตร์เท่ากับ 1.7 ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ความอิ่มตัวยิ่งยวด (ส่วนกลับของ Residence time) เป็นตัวแปรสำคัญที่มีอิทธิพลต่อกระบวนการตกผลึก พบว่าเมื่อ Residence time ลดลงอัตราการเติบโตและอัตราการเกิดแกนผลึกมีค่าเพิ่มขึ้น แต่ Residence time มีผลเพียงเล็กน้อยต่อขนาดเฉลี่ยของผลึก ความเข้มข้น แคลเซียมคลอไรด์ไม่มีผลต่ออัตราการเติบโตของผลึก แต่ที่ Residence time น้อย (20 นาที )จะมีผลต่ออัตราการเกิดแกนผลึก อุณหภูมิและแคลเซียมคลอไรด์ที่ Residence time มาก(30,50 นาที) ไม่มีผลต่อทั้งอัตราการเติบโตและอัตราการเกิดแกนผลึก แต่ที่ Residence time น้อย (20 นาที) อุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้อัตราการเติบโตและอัตราการเกิดแกนผลึกเพิ่มสูงขึ้น |
Other Abstract: | The crystallization by precipitation of calcium sulfate in sodium chloride was studied under Mixed Suspension Mixed Product Removed (MSMPR) conditions for various temperatures (40, 55, 70 c), concentrations of calcium chloride (2.5, 3.0, 3.5 g/1) and residence times (20, 30, 50 min.). Population density balance could determine growth rate, nucleation rate and kinetic order. The Particle Size Laser analyzer were used in this study. Crystal size distribution data obtained from the analyzer is volume percentage but could be transformed to population density. Results of the studies indicated that the crystallizer operated at very low suspension density. The crystal size distribution was very narrow and the mean size was small (0.7 to 0.9 micron). Growth rate was very slow in the range of 0.01 to 0.03 micron /min. Nucleation rate was in an order of 106 no./ml-min. At constant temperature, the nucleation and growth rate could be modeled with simple power law and yielded the kinetic order of 1.7. The kinetic order indicated that supersaturation (inverse of residence time) was the dominant variable affecting crystallization. When decreasing the residence time, growth and nucleation rate increased significantly. Changing in the residence time had little effect on crystal size distribution and mean size. Calcium chloride concentration had no effect on growth rate but at low residence time it did effect on nucleation rate. Temperature and calcium chloride at high residence time (30,50 min.) did not effect both growth and nucleation. Only at low residence time (20 min.), higher temperature increased both growth and nucleation rate. |
Description: | วิทยานิพนธ์ (วศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2540 |
Degree Name: | วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต |
Degree Level: | ปริญญาโท |
Degree Discipline: | วิศวกรรมเคมี |
URI: | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/70811 |
ISSN: | 9746391933 |
Type: | Thesis |
Appears in Collections: | Grad - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Chaiyan_ya_front.pdf | หน้าปกและบทคัดย่อ | 549.03 kB | Adobe PDF | View/Open |
Chaiyan_ya_ch1.pdf | บทที่ 1 | 97.59 kB | Adobe PDF | View/Open |
Chaiyan_ya_ch2.pdf | บทที่ 2 | 840.15 kB | Adobe PDF | View/Open |
Chaiyan_ya_ch3.pdf | บทที่ 3 | 458.1 kB | Adobe PDF | View/Open |
Chaiyan_ya_ch4.pdf | บทที่ 4 | 1.52 MB | Adobe PDF | View/Open |
Chaiyan_ya_ch5.pdf | บทที่ 5 | 79.29 kB | Adobe PDF | View/Open |
Chaiyan_ya_back.pdf | บรรณานุกรมและภาคผนวก | 3.82 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.