ความรู้ด้านวัฒนธรรมเชิงพฤติกรรมภาษาอังกฤษ ของนิสิตนักศึกษาระดับปริญญาตรีวิชาเอกการสอนภาษาอังกฤษ ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ

Abstract

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้ด้านวัฒนธรรมเชิงพฤติกรรมภาษาอังกฤษของนิสิตนักศึกษระดับปริญญาตรี วิชาเอกการสอนภาษาอังกฤษในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ทางด้านความรู้เกี่ยวกับการสนทนาในชีวิตประจำวัน ความรู้เกี่ยวกับการแสดงพฤติกรรมที่ไม่ใช้คำพูด และความรู้เกี่ยวกับธรรมเนียมปฏิบัติ การดำเนินชีวิต ทัศนคติ และค่านิยมต่าง ๆ ตัวอย่างประชากรเป็นนิสิตนักศึกษาระดับปริญญาตรี (หลักสูตร 4 ปี) ชั้นปีที่ 4 วิชาเอกการสอนภาษาอังกฤษในปีการศึกษา 2536 ในวิทยาลัยครูและมหาวิทยาลัย ของรัฐจำนวน 236 คน ซึ่งผู้วิจัยได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบความรู้ด้านวัฒนธรรมเชิงพฤติกรรมภาษาอังกฤษที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น โดยได้รับการตรวจสอบความครอบคลุมของเนื้อหาความถูกต้องในการใช้ภาษาและความถูกต้องของข้อมูล จากผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 9 คน แบบสอบนี้มีระดับความยากระหว่าง 0.20 – 0.80 มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.20 – 0.76 และมีค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.96 ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. นิสิตนักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 4 วิชาเอกการสอนภาษาอังกฤษในสถาบันศึกษาของรัฐ มีความรู้ด้านวัฒนธรรมเชิงพฤติกรรมภาษาอังกฤษอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง โดยมีค่ามัชฌิมเลขคณิตคิดเป็นร้อยละ 52.76 ทั้งนี้ นักศึกษาจากวิทยาลัยครูมีค่ามัชฌิมเลขคณิตคิดเป็นร้อยละ 50.05 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างอ่อน ส่วนนิสิตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยมีค่ามัชฌิมเลขคณิตคิดเป็นร้อยละ 56.33 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง 2. นักศึกษาระดับปริญญาตรี (หลักสูตร 4 ปี) ชั้นปีที่ 4 วิชาเอกการสอน ภาษาอังกฤษจากวิทยาลัยครู มีความรู้เกี่ยวกับการแสดงพฤติกรรมที่ไม่ใช้คำพูดสูงสุด โดยมีค่ามัชฌิมเลขคณิตคิดเป็นร้อยละ 66.71 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี รองลงมาคือความรู้เกี่ยวกับธรรมเนียมปฏิบัติ การดำเนินชีวิต ทัศนคติ และค่านิยมต่าง ๆ โดยมีค่ามัชฌิมเลขคณิตคิดเป็นร้อยละ 51.26 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปานกลางและความรู้เกี่ยวกับการสนทนาในชีวิตประจำวัน โดยมีค่ามัชฌิมเลขคณิตคิดเป็นร้อยละ 45.48 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างอ่อน 3. นิสิตนักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 4 วิชาเอกการสอนภาษาอังกฤษจากมหาวิทยาลัย มีความรู้เกี่ยวกับการแสดงพฤติกรรมที่ไม่ใช้คำพูดสูงสุด โดยมีค่ามัชฌิมเลขคณิตคิดเป็นร้อยละ 68.13 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี รองลงมาคือความรู้เกี่ยวกับธรรมเนียมปฏิบัติ การดำเนินชีวิต ทัศนคติ และค่านิยมต่าง ๆ โดยมีค่ามัชฌิมเลขคณิตคิดเป็นร้อยละ 58.68 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง และความรู้เกี่ยวกับการสนทนาในชีวิตประจำวัน โดยมีค่ามัชฌิมเลขคณิตคิดเป็นร้อยละ 51.27 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง