Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/11686
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | ชัยพร วิชชาวุธ | - |
dc.contributor.author | ชุลีกร ชิติรัตนทรีย์ | - |
dc.contributor.other | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. บัณฑิตวิทยาลัย | - |
dc.date.accessioned | 2009-11-16T09:32:50Z | - |
dc.date.available | 2009-11-16T09:32:50Z | - |
dc.date.issued | 2541 | - |
dc.identifier.isbn | 9743320857 | - |
dc.identifier.uri | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/11686 | - |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2541 | en |
dc.description.abstract | ศึกษาการแสดงความลำเอียงเพื่อตนเองของสมาชิกในกลุ่มที่เห็นคุณค่าในตนเองสูง ปานกลาง และต่ำที่ได้รับการเฉลยว่าประสบผลสำเร็จหรือล้มเหลว โดยภายในกลุ่มแต่ละกลุ่มประกอบด้วยสมาชิก 4 คนที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินของกลุ่มต่างกัน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการทดลองเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี สถาบันราชภัฎจันทรเกษม แยกเป็นเพศชาย 95 คน เพศหญิง 225 คน แบ่งกลุ่มทดลองเป็น 6 เงื่อนไขคือ กลุ่มที่เห็นคุณค่าในตนเองสูงที่ประสบผลสำเร็จ กลุ่มที่เห็นคุณค่าในตนเองสูงที่ประสบผลล้มเหลว กลุ่มที่เห็นคุณค่าในตนเองปานกลางที่ประสบผลสำเร็จ กลุ่มที่เห็นคุณค่าในตนเองปานกลางที่ประสบผลล้มเหลว กลุ่มที่เห็นคุณค่าในตนเองต่ำที่ประสบผลสำเร็จ และกลุ่มที่เห็นคุณค่าในตนเองต่ำที่ประสบผลล้มเหลว แต่ละเงื่อนไขแบ่งเป็นกลุ่มย่อยกลุ่มละ 4 คนได้จำนวน 80 กลุ่ม ผลการวิจัยพบว่า 1. กลุ่มที่ได้รับการเฉลยว่าประสบผลสำเร็จมีความลำเอียงเพื่อตนเอง, ระบุบทบาทของตนต่อผลงานของกลุ่ม, แสดงความเห็นด้วยกับมติกลุ่ม แสดงความยอมรับในความถูกต้องของเฉลยและประเมินความสำคัญของงานมากกว่ากลุ่มที่ได้รับการเฉลยว่าประสบผลล้มเหลวอย่างมีนัยสำคัญ (p<.001) 2. เมื่อได้รับการเฉลยว่าประสบผลสำเร็จสมาชิกที่เห็นคุณค่าในตนเองสูงมีความลำเอียงเพื่อตนเอง, ระบุบทบาทของตนต่อผลงานของกลุ่ม และแสดงการยอมรับในความถูกต้องของเฉลยมากกว่าสมาชิกที่เห็นคุณค่าในตนเองต่ำอย่างมีนัยสำคัญ (p<.05) แสดงความเห็นด้วยกับมติของกลุ่มและประเมินความสำคัญของงานไม่แตกต่างจากสมาชิกที่เห็นคุณค่าในตนเองต่ำ 3. เมื่อได้รับการเฉลยว่าประสบผลสำเร็จสมาชิกที่มีอิทธิผลต่อการตัดสินใจของกลุ่มมีความลำเอียงเพื่อตนเอง, ระบุบทบาทของตนต่อผลงานของกลุ่ม และแสดงการยอมรับในความถูกต้องของเฉลยมากกว่าสมาชิกที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของกลุ่มต่ำอย่างมีนัยสำคัญ (p<.05) แสดงความเห็นด้วยกับมติกลุ่มและประเมินความสำคัญของงานไม่แตกต่างจากสมาชิกที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของกลุ่มต่ำ 4. เมื่อได้รับการเฉลยว่าประสบผลล้มเหลวสมาชิกที่เห็นคุณค่าในตนเองสูงมีความลำเอียงเพื่อตนเองและแสดงการยอมรับในความถูกต้องของเฉลยน้อยกว่าสมาชิกที่เห็นคุณค่าในตนเองต่ำอย่างมีนัยสำคัญ (p<.05) ระบุบทบาทของตนต่อผลงานของกลุ่มและแสดงความเห็นด้วยกับมติกลุ่มมากกว่าสมาชิกที่เห็นคุณค่าในตนเองต่ำอย่างมีนัยสำคัญ (p<.05) ประเมินความสำคัญของงานไม่แตกต่างจากสมาชิกที่เห็นคุณค่าในตนเองต่ำ 5. เมื่อได้รับการเฉลยว่าประสบผลล้มเหลวสมาชิกที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของกลุ่มสูงมีความลำเอียงเพื่อตนเองยอมรับในความถูกต้องของเฉลยและประเมินความสำคัญของงานน้อยกว่าสมาชิกที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของกลุ่มต่ำอย่างมีนัยสำคัญ (p < .05) แสดงความเห็นด้วยกับมติกลุ่มและระบุบทบาทของตนต่อผลงานของกลุ่มมากกว่าสมาชิกที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของกลุ่มต่ำอย่างมีนัยสำคัญ (p < .05) | en |
dc.description.abstractalternative | Studies the occurrences of self-serving biases in high, medium, and low self-esteem groups which in received the success or failure situations. Success and failure were manipulated by experimenter's feedback. The participants were Rachapathra Jankasaem undergraduate students, 95 males and 225 females. The experiment was conducted under 6 conditions: High self-esteem groups with success situation, high self-esteem groups with failure situation, medium self-esteem groups with success situation, medium self-esteem groups with failure situation, low self-esteem groups with success situation, and low self-esteem groups with failure situation. For each condition, the participants were divided into 80 groups of 4 members each. The results of the experiment showed the followings: 1. In the success situation, participants showed more self-role in group achievement, agreement with group resolutions, acceptance of the accuracy of the answer, and evaluating the job importance than participants in the failure situation with statistic significance (p<.001). 2. High self-esteem members, in the success situation, showed more self-serving biases, identifying self-role in group achievement and acceptance of the accuracy of the answer than low self-esteem members with statistic significance (p<.05). There were no statistic significance in ageement with group resolutions and evaluating job importance between high self-esteem members and low self-esteem members. 3. High-influence members, in the success situation, showed more self-serving biases, identifying self-role in group achievement and acceptance of the accuracy of the answer than low-influence members with statistic significance (p<.05). There were no statistic significance in agreement with group resolutions and evaluating job importance between high influence members and low-influence members. 4. High self-esteem members, in the failure situation, showed less self-serving biases and acceptance of the accuracy of the answer than low self-esteem members with statistic significance (p<.05), more identifying self-role in group achievement and agreement with group resolutions than low self-esteem members with statistic significance (p<.05). There were no statistic significance in evaluating job importance between high self-esteem members and low self-esteem members. 5. High-influence members, in the failure situation, showed less self-serving biases, acceptance of the accuracy of the answer and lower in evaluating job importance than low-influence members with statistic significance (p<.05), more identifying self-role in group achievement and agreement with group resolutions than low self-esteem members with statistic significance (p<.05). | en |
dc.format.extent | 1070029 bytes | - |
dc.format.extent | 1200664 bytes | - |
dc.format.extent | 860889 bytes | - |
dc.format.extent | 1903592 bytes | - |
dc.format.extent | 784185 bytes | - |
dc.format.extent | 763480 bytes | - |
dc.format.extent | 1384787 bytes | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.format.mimetype | application/pdf | - |
dc.language.iso | th | es |
dc.publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en |
dc.rights | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en |
dc.subject | ความนับถือตนเอง | en |
dc.subject | การตัดสินใจของกลุ่ม | en |
dc.subject | อคติ (จิตวิทยา) | en |
dc.title | การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการเห็นคุณค่าในตนเองกับการลำเอียงเพื่อตนเองภายในกลุ่มที่สมาชิกมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจต่างกัน | en |
dc.title.alternative | A study of the relationship between self-esteem and self-serving biases in groups of differential decision-influence members | en |
dc.type | Thesis | es |
dc.degree.name | ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต | es |
dc.degree.level | ปริญญาโท | es |
dc.degree.discipline | จิตวิทยาสังคม | es |
dc.degree.grantor | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en |
dc.email.advisor | [email protected] | - |
Appears in Collections: | Grad - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Churekorn_Ch_front.pdf | 1.04 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Churekorn_Ch_ch1.pdf | 1.17 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Churekorn_Ch_ch2.pdf | 840.71 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Churekorn_Ch_ch3.pdf | 1.86 MB | Adobe PDF | View/Open | |
Churekorn_Ch_ch4.pdf | 765.81 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Churekorn_Ch_ch5.pdf | 745.59 kB | Adobe PDF | View/Open | |
Churekorn_Ch_back.pdf | 1.35 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.