Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/32457
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorภาวิกา ศรีรัตนบัลล์-
dc.contributor.authorสุนทรี มาคะคำ-
dc.contributor.otherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะรัฐศาสตร์-
dc.date.accessioned2013-06-25T02:50:09Z-
dc.date.available2013-06-25T02:50:09Z-
dc.date.issued2551-
dc.identifier.urihttp://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/32457-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (สค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2551en_US
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)ศึกษาการรับรู้ภาพลักษณ์ทางด้านร่างกายของผู้ที่ภาวะมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน 2)ศึกษาวิถีชีวิตของผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินมาตรฐาน 3)เพื่อศึกษาความพึงพอใจภาพลักษณ์ทางด้านร่างกายของผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินมาตรฐาน 4)เพื่อศึกษาการจัดการภาพลักษณ์ทางด้านร่างกายของผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินมาตรฐาน โดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างเป็นแบบเจาะจง เป็นผู้หญิงและผู้ชายที่มีภาวะน้ำหนักเกินมาตรฐานโดยกำหนดค่า BMI (body mass index) เท่ากับ 30 หรือมากกว่า 30 ขึ้นไป จำนวน 10 ตัวอย่าง รวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึก การศึกษาประวัติชีวิต ผลการศึกษาพบว่า การรับรู้ภาพลักษณ์ทางด้านร่างกายของผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินมาตรฐานนั้นเกิดจากการนำตนเองไปเปรียบเทียบกับบุคคลอื่น อันจะนำไปสู่ความไม่พึงพอใจในภาพลักษณ์ทางด้านร่างกายของตนเอง เกิดความรู้สึกขัดแย้งระหว่างภาพลักษณ์ทางด้านร่างกายที่ตนเองนั้นเป็นอยู่ กับภาพลักษณ์ทางด้านร่างกายที่ตนเองอยากจะเป็นหรือภาพลักษณ์ทางด้านร่างกายในอุดมคติ และนำไปสู่ความอาย ความต้องการปกปิด ภาพลักษณ์ทางด้านร่างกายที่ตนเองนั้นเป็นอยู่ เกิดความทุกข์กายและใจเมื่อไม่สามารถมีภาพลักษณ์ที่ตนเองต้องการได้ขึ้นภายในจิตใจ จนก่อเกิดเป็นความรู้สึกเป็นตราบาปขึ้นมา ความรู้สึกเป็นตราบาปไม่ได้มีผลแค่ในทางจิตใจเท่านั้น แต่ยังมีผลในทางการปรับตัวเข้ากับผู้อื่น การใช้ชีวิตในสังคม ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินมาตรฐานจึงต้องหาวิธีในการระงับ หรือขจัดความรู้สึกเป็นตราบาปภายในจิตใจของตนเองให้น้อยลงหรือหายไป ซึ่งก็คือ การจัดการภาพลักษณ์ทางด้านร่างกายและทางจิตใจ ซึ่งวิธีในการจัดการภาพลักษณ์ทางด้านร่างกายของผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินมาตรฐาน ก็จะแตกต่างกันไปตามความพึงพอใจภาพลักษณ์ทางด้านร่างกายของผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินมาตรฐานen_US
dc.description.abstractalternativeThe purposes of this qualitative research were to 1) study the physical perception of the obese, 2) study their lifestyle, 3) study the satisfaction of their physical perception and 4) study the management of their physical perception. Specifically chosen ten males and females whose body mass index (BMI) was equal to or more than 30 were the subjects. The data were collected by using in-depth interview and life-history methods. It was found that the self perception of the body image of the obese resulted from comparing themselves with others, leading to their being dissatisfied with their body image. There was a conflict between their real body image and their ideal body image. This resulted in shyness and wanting to hide their real figure. They felt upset and unhappy because they could not have their ideal body image. This feeling affected their social life, finding it hard to socialize with others. The obese should find a way to get rid of this feeling by dealing with their body. Ways to deal with it depend on how the obese feel about their body.en_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.relation.urihttp://doi.org/10.14457/CU.the.2008.1109-
dc.rightsจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.subjectน้ำหนักตัวen_US
dc.subjectบุคคลน้ำหนักเกินen_US
dc.subjectภาพลักษณ์ร่างกายen_US
dc.subjectการรับรู้ตนเองen_US
dc.subjectBody weighten_US
dc.subjectOverweight personsen_US
dc.subjectBody imageen_US
dc.subjectSelf-perceptionen_US
dc.titleการรับรู้ภาพลักษณ์ทางด้านร่างกายและวิถีชีวิตของผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินมาตรฐานen_US
dc.title.alternativeSelf perception of body image and lifestyles of the obeseden_US
dc.typeThesisen_US
dc.degree.nameสังคมวิทยามหาบัณฑิตen_US
dc.degree.levelปริญญาโทen_US
dc.degree.disciplineสังคมวิทยาen_US
dc.degree.grantorจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยen_US
dc.email.advisor[email protected]-
dc.identifier.DOI10.14457/CU.the.2008.1109-
Appears in Collections:Pol - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
suntaree_ma.pdf2.43 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.