Please use this identifier to cite or link to this item:
https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/45063
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | พรทิพย์ แข็งขัน | - |
dc.contributor.author | ประภาสินี ปิงใจ | - |
dc.contributor.other | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะครุศาสตร์ | - |
dc.date.accessioned | 2015-09-08T02:24:45Z | - |
dc.date.available | 2015-09-08T02:24:45Z | - |
dc.date.issued | 2555 | - |
dc.identifier.uri | http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/45063 | - |
dc.description | วิทยานิพนธ์ (ค.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2555 | en_US |
dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้โมเดลกราฟฟิติที่มีต่อความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจและทักษะการร่วมมือของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 และเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจ และทักษะการร่วมมือของนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โมเดลกราฟฟิติกับนักเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 สถานศึกษาโรงเรียน พิริยาลัยจังหวัดแพร่ จำนวน 89 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองซึ่งจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โมเดลกราฟฟิติ จำนวน 44 คน และกลุ่มควบคุมซึ่งจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ จำนวน 45 คน เครื่องมือที่ใช้ ในการดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบวัดความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจและ แบบประเมินทักษะการร่วมมือ เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง คือ แผนการจัดการเรียนรู้วรรณกรรมพื้นบ้านล้านนา การทดลองใช้ระยะเวลา 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 4 คาบ รวมทั้งสิ้น 32 คาบ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่ามัชฌิมเลขคณิต (X) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (s) และทดสอบค่า t (t-test) ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1) กลุ่มทดลองที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โมเดลกราฟฟิติมีความสามารถใน การอ่านเพื่อความเข้าใจหลังทดลองสูงกว่าก่อนทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) กลุ่มทดลองที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โมเดลกราฟฟิติมีความสามารถใน การอ่านเพื่อความเข้าใจสูงกว่ากลุ่มควบคุมที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) กลุ่มทดลองที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โมเดลกราฟฟิติมีทักษะการร่วมมือ หลังทดลองสูงกว่าก่อนทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) กลุ่มทดลองที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้โมเดลกราฟฟิติมีทักษะการร่วมมือสูงกว่ากลุ่มควบคุมที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 | en_US |
dc.description.abstractalternative | The purposes of this research were: 1) to study the effects of organizing Thai language learning activities by using the graffiti model on the reading comprehension ability and the cooperative skills of eighth grade students; and 2) to compare reading comprehension ability and cooperative skills between a group learning by the graffiti model and a group learning by conventional instruction. The subjects were 89 eighth grade students in the 2012 academic year at Piriyalai School in Phrae Province. These subjects were divided into two groups: an experimental group learning by using the graffiti model, and a control group learning by conventional instruction. The instruments for data collection were a reading comprehension ability test and cooperative skills evaluation. The instruments for the experiment were lesson plans. The duration of the experiment was thirty-two periods over a span of eight weeks. Arithmetic means, standard deviations, and t-tests were utilized in the data analysis. The results were as follows: 1) students learning by using the graffiti model had higher reading comprehension ability after the experiment than before the experiment at the .05 level of significance; 2) students learning by using the graffiti model had higher reading comprehension ability than students learning by conventional instruction at the .05 level of significance; 3) students learning by using the graffiti model had higher cooperative skills after the experiment than before the experiment at the .05 level of significance; and 4) students learning by using the graffiti model had higher cooperative skills than students learning by conventional instruction at the .05 level of significance. | en_US |
dc.language.iso | th | en_US |
dc.publisher | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.relation.uri | http://doi.org/10.14457/CU.the.2012.1243 | - |
dc.rights | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.subject | ภาษาไทย -- การศึกษาและการสอน (มัธยมศึกษา) | en_US |
dc.subject | กิจกรรมการเรียนการสอน | en_US |
dc.subject | กราฟฟิตี้ | en_US |
dc.subject | การอ่านขั้นมัธยมศึกษา | en_US |
dc.subject | Thai language -- Study and teaching (Secondary) | en_US |
dc.subject | Activity programs in education | en_US |
dc.subject | Graffiti | en_US |
dc.subject | Reading (Secondary) | en_US |
dc.title | ผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้โมเดลกราฟฟิติที่มีต่อความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจและทักษะการร่วมมือของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 | en_US |
dc.title.alternative | Effects of organizing Thai language learning activities by using the graffiti model on the reading comprehension ability and cooperative skills of eighth grade students | en_US |
dc.type | Thesis | en_US |
dc.degree.name | ครุศาสตรมหาบัณฑิต | en_US |
dc.degree.level | ปริญญาโท | en_US |
dc.degree.discipline | การสอนภาษาไทย | en_US |
dc.degree.grantor | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | en_US |
dc.email.advisor | [email protected], [email protected] | - |
dc.identifier.DOI | 10.14457/CU.the.2012.1243 | - |
Appears in Collections: | Edu - Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
prapasinee_pi.pdf | 2.74 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.