Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/57079
Title: การศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงของผู้ป่วยที่มีเม็ดโลหิตขาวชนิดนิวโตรฟิลต่ำโดยที่ยังไม่มีอาการในประชากรไทย
Other Titles: The prevalence and etiology of asymptomatic neutropenia in Thai population
Authors: ปณิสินี ลวสุต
Advisors: ธัญญพงษ์ ณ นคร
พลภัทร โรจน์นครินทร์
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะแพทยศาสตร์
Advisor's Email: [email protected]
[email protected]
Subjects: ภาวะนิวโทรฟิลต่ำ
นิวโทรฟิล
เม็ดเลือดขาว
ผู้ป่วย
Neutropenia
Neutrophils
Leucocytes
Patients
Issue Date: 2552
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: ที่มา เนื่องจากการตรวจ automated complete blood count เป็นการตรวจที่ทำกันเป็นประจำรวมถึงในการ ตรวจสุขภาพ ด้วยการตรวจนี้ทำให้มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งพบว่ามีจำนวนเม็ดเลือดขาวต่ำหรือค่อนต่ำโดยที่ไม่มีอาการใดได้ โดยบังเอิญ การพบนี้เป็นปัญหาในทางปฏิบัติเนื่องจากไม่มีค่าปรกติที่เป็นที่ยอมรับชัดเจน ไม่มีแนวทางในการสืบค้นสาเหตุ ที่อาจเป็นไปได้ ดังนั้นจึงทำการศึกษาในชุมชนเพื่อหาความชุกของภาวะเม็ดเลือดขาวชนิดนิวโตรฟิลต่ำโดยที่ยังไม่มีอาการ และปัจจัยเสี่ยงเบื้องต้นที่สามารถอธิบายได้ในประชากรไทยก่อน เพื่อเป็นแนวทางในการสืบค้นและทำการศึกษาอื่นๆต่อไป วิธีการศึกษา ทำการเก็บตัวอย่างเลือดจากประชากรไทยที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพและจังหวัดใกล้เคียงรวม 4 จังหวัด ให้กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ให้ประวัติเองด้วยการตอบแบบสอบถามและมีบุคคลากรทางการแพทย์ตรวจสอบซ้ำ ใช้ค่า absolute neutrophil count (ANC) <1.5 x 109/L เป็นขอบล่างของค่าปรกติเพื่อบอกว่ามีภาวะเม็ดเลือดขาวชนิดนิวโตรฟิลต่ำ (neutropenia)ตามที่มีการใช้โดยไม่แบ่งตามเชื้อชาติ กลุ่มตัวอย่างที่พบมีภาวะเม็ดเลือดขาวชนิดนิวโตรฟิลต่ำจะถูกทบทวน ประวัติทางการแพทย์และตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมเพื่อหาปัจจัยเสี่ยงที่สามารถเป็นสาเหตุได้ ผลการศึกษา รวบรวมกลุ่มตัวอย่างได้ทั้งสิ้น 7,228 ราย เป็นชาย 2,685 รายและหญิง 4,543 ราย อายุระหว่าง 18-99 ปี(ค่ากลาง 49.0 ปี) การกระจายของเม็ดเลือดขาวทั้ง white blood cell count(WBC) และ ANC เป็นแบบเบ้ขวา มี ค่ากลางเท่ากับ 7.33 x 109/L (Q1-Q3 6.17-8.71) และ 3.95 x 109/L (Q1-Q3 3.16-4.90) ตามลำดับ พบกลุ่มตัวอย่าง 31 ราย มี neutropenia (0.43%, 95% CI 0.29-0.56) แยกเป็นความชุกในเพศชาย 0.26% (95% CI 0.07-0.44) และในเพศ หญิง 0.52% (95% CI 0.31-0.72) ปัจจัยเสี่ยงที่พบได้แก่ ได้รับยาที่ทำให้เกิด neutropenia ได้ 3 ราย(เคมีบำบัด 2 ราย, Peginterferon/Ribavirin 1 ราย), chronic active hepatitis 5 ราย, โรคไทรอยด์ 4 ราย (hyperthyroidism 1 ราย, hypothyroid 3 ราย), Rheumatoid arthritis 1 ราย และ ทุพโภชนาการ 2 ราย ความผิดปรกติทางห้องปฏิบัติการอื่นที่ตรวจ พบได้แก่ serum ferritin ต่ำ 6 ราย, ANA positive 4 ราย และ rheumatoid factor positive 1 ราย ไม่พบผู้ป่วยรายใดมี anti-HIV positive ผู้ป่วยอย่างน้อยอีก 9 รายยังคงไม่พบปัจจัยเสี่ยง ประวัติปัจจัยเสี่ยงเดียวที่สัมพันธ์กับภาวะ neutropenia คือ การเป็นโรคมะเร็งที่นับรวมผู้ได้รับยาเคมีบำบัดมาด้วย odd ratio 16.54 (95%CI 4.69-58.29) ถ้าตัดผู้ที่ เกิดจากยาเคมีบำบัดออกแล้วไม่พบปัจจัยเสี่ยงใดมีความสัมพันธ์กับภาวะ neutropenia อย่างมีนัยสำคัญ สรุปผลการศึกษา ความชุกของภาวะเม็ดเลือดขาวชนิดนิวโตรฟิลต่ำโดยที่ยังไม่มีอาการในประชากรไทยเท่ากับ 0.43% (95% CI 0.29-0.56) ในเพศชาย 0.26% (95% CI 0.07-0.44) และในเพศหญิง 0.52% (95% CI 0.31-0.72) ผู้ป่วย ประมาณ 2 ใน 3 สามารถพบปัจจัยเสี่ยงได้ ควรทำการศึกษาต่อไปเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยเสี่ยงเหล่านั้นกับการ เกิดโรค
Other Abstract: Background The automated complete blood cell count is generally used, including in routine health checkups. With this screening, cases with low or borderline white blood cells count(WBC) without any symptoms are occasionally detected. These are problematic because there is no well-defined cutoff point of neutropenia for Thais. In addition, the risk factors that should be investigated remain unknown. Therefore, we conducted a community-based study to determine the prevalence and the preliminary etiologies of asymptomatic neutropenia in Thai population. Methods Blood specimens and medical personnel-assisted self-report questionnaires were collected from the population in Bangkok and 4 surrounding provinces. Neutropenic cases were those with absolute neutrophil count (ANC) < 1.5 x 109/l as used without ethnic determination. Reviewed of medical histories and laboratory tests to elucidate the risk factors of neutropenic cases were performed. Results There were a total of 7,228 subjects, 2,685 males and 4,543 females from the age of 18-99 years (median 49.0). The WBC and ANC distribution was skewed to the right. The median WBC and ANC were 7.33 x 109/L (Q1-Q3 6.17-8.71) and 3.95 x 109/L (Q1-Q3 3.16-4.90), respectively. Thirty one of participants had neutropenia (0.43%, 95% CI 0.29-0.56). The prevalence for each sex was 0.26% (95% CI 0.07-0.44) in males and 0.52% (95% CI 0.31-0.72) in females. The risk factors found were medications (n=3, 2 from chemotherapy, 1 from Peginterferon/Ribavirin), chronic active hepatitis (n=5), thyroid disorders (n=4, hyperthyroidism 1, hypothyroid 3), rheumatoid arthritis (n=1) and malnutrition (n=2). The other abnormal laboratory findings were low serum ferritin in 6 cases, ANA positive in 4 cases and rheumatoid factor positive in 1 case. No anti-HIV positive case found. The risk factors were still cannot be established in at least 9 of cases. The only risk factor from history that associated with neutropenia is cancers, odd ratio 16.54 (95%CI 4.69-58.29). But if neutropenic cases from chemotherapy were excluded, there was no significant risk factor found. Conclusion The prevalence of asymptomatic neutropenia in Thai population was 0.43% (95% CI 0.29- 0.56), 0.26% (95% CI 0.07-0.44) in males and 0.52% (95% CI 0.31-0.72) in females. Around two third of cases had possible risk factors. Additional studies for the association of the risk factors and the causes of diseases need to be explored
Description: วิทยานิพนธ์ (วท.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2552
Degree Name: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level: ปริญญาโท
Degree Discipline: อายุรศาสตร์
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/57079
URI: http://doi.org/10.14457/CU.the.2009.423
metadata.dc.identifier.DOI: 10.14457/CU.the.2009.423
Type: Thesis
Appears in Collections:Med - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
panisinee_la_front.pdf1.41 MBAdobe PDFView/Open
panisinee_la_ch1.pdf742.55 kBAdobe PDFView/Open
panisinee_la_ch2.pdf769.86 kBAdobe PDFView/Open
panisinee_la_ch3.pdf832.13 kBAdobe PDFView/Open
panisinee_la_ch4.pdf3.2 MBAdobe PDFView/Open
panisinee_la_ch5.pdf1.17 MBAdobe PDFView/Open
panisinee_la_back.pdf1.06 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.