Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/61856
Title: การแปรสภาพขยะพลาสติกจากหลุมฝังกลบโดยกระบวนการไพโรไลซิสและแกซิฟิเคชัน
Other Titles: Conversion of plastic wastes from landfill using pyrolysis and gasification processes
Authors: ปรางค์ทิพย์ แก้วเพ็งกรอ
Email: ไม่มีข้อมูล
Advisors: วิบูลย์ ศรีเจริญชัยกุล
ดวงเดือน อาจองค์
Other author: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิศวกรรมศาสตร์
Advisor's Email: [email protected]
[email protected]
Subjects: ขยะพลาสติก
การแยกสลายด้วยความร้อน
พลังงานจากขยะ
Plastic scrap
Pyrolysis
Refuse as fuel
Issue Date: 2553
Publisher: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Abstract: งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาการแปรสภาพขยะพลาสติกจากหลุมฝังกลบโดยผ่านกระบวนการไพโรไลซิสและแกซิฟิเคชัน ทำการศึกษาที่อุณหภูมิ 700-900 °C ที่อัตราสมมูลเท่ากับ 0.4 – 0.6 โดยไม่ใช้ตัวเร่งปฎิกิริยาเปรียบเทียบกับการแกซิฟิเคชันที่ใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา Ni-Mg-La/Al₂O₃ แก๊สผลิตภัณฑ์หลักที่ได้คือแก๊สไฮโดรคาร์บอน การไพโรไลซิสและแกซิฟิเคชันขยะพลาสติกโดยไม่ใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา พบว่าปริมาณแก๊สไฮโดรเจนและคาร์บอน มอนอกไซด์ที่ได้ต่ำ ค่าความร้อนที่ได้อยู่ในช่วง 6.52–9.39 MJ/m³ค่าความร้อนสูงสุดเกิดที่อุณหภูมิ 800 °C อัตราสมมูลเท่ากับ 0.4 ซึ่งมีความเหมาะสมสำหรับนำไปใช้เป็นแก๊สเชื้อเพลิงต่อไป และพบว่าค่าประสิทธิภาพเชิงความร้อนของแก๊สผลิตภัณฑ์ที่อุณหภูมิ 700 °C อัตราสมมูลเท่ากับ 0.4 มีค่าสูงสุดเท่ากับร้อยละ 86.42 ซึ่งการแกซิฟิเคชันที่อุณหภูมิต่ำคือ 700 °C จะประหยัดพลังงานมากกว่าที่อุณหภูมิสูง นอกจากนี้ยังพบว่าระยะเวลากักของแก๊สเท่ากับ 1.3 วินาทีเป็นสภาวะที่เหมาะสมในการผลิตแก๊สไฮโดรเจนและคาร์บอนมอนอกไซด์ ในขณะที่การใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา Ni-Mg-La/Al₂O₃ ในการแกซิฟิเคชันพบว่าปริมาณแก๊สผลิตภัณฑ์มีค่าสูงอยู่ในช่วง 87.23–94.29% ผลิตภัณฑ์ของแข็งและของเหลวมีปริมาณลดลง ปริมาณแก๊สไฮโดรเจนและคาร์บอนมอนอกไซด์มีค่าสูงขึ้นและยังพบว่าค่าความร้อนมีค่าสูงขึ้นเท่ากับ 15.76–19.26 MJ/m³ มีค่าสูงสุดที่อุณหภูมิ 900 °C จากผลการทดลองชี้ให้เห็นว่าการใช้ตัวเร่งปฏิกิริยามีผลต่อปริมาณแก๊สผลิตภัณฑ์โดยรวม การผลิตแก๊สไฮโดรเจนและคาร์บอนมอนอกไซด์แต่ไม่มีผลต่อการลดลงของปริมาณแก๊สไฮโดรคาร์บอน ดังนั้นการแปรสภาพทางเคมีด้วยความร้อนของขยะพลาสติกที่ผ่านการฝังกลบโดยกระบวนการแกซิฟิเคชันจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมอีกทางหนึ่งในการจัดการของเสีย
Other Abstract: Pyrolysis and gasification processes were utilized in order to study the feasibility on production of value added fuels from landfilled plastic wastes. Plastic wastes were converted in a gasifier at 700–900 °C. Equivalence ratio (ER) was varied from 0.4–0.6 with or without addition of Ni-Mg-La/Al₂O₃ catalyst. Methane was found to be the major gaseous products. The pyrolysis and gasification of plastic wastes without Ni-Mg-La/Al₂O₃ catalyst resulted in relatively low H₂ and CO with energy content ranged from 6.52–9.39 MJ/m³. The highest LHV obtained from 800°C and equivalence ratio of 0.4 is suitable for further usage as quality fuel gas. The maximum cold gas efficiency of 86.42% occurred at 700°C and equivalence ratios as 0.4, it would be more economical to gasify this plastic waste at lower temperature of 700°C. The residence time is one of important operating variables in the plastics gasification process. There is significant effect observed in amount or composition of gaseous products which a residence time of 1.3 s was found to be optimum in product gas with amounts of H₂ and CO. The presence of the Ni-Mg-La/Al₂O₃ catalyst significantly enhanced H₂ and CO production as well as increased gas energy content to 15.76–19.26 MJ/m³. Higher temperature resulted in more H₂ and CO and product gas yield which ranged from 87.23–94.29%. The maximum gas yield was achieved when Ni-Mg-La/Al₂O₃ catalyst was used at 900°C; it had significant effects on product gas yield, H₂ and CO production, calorific value and cold gas efficiency and no significant effect on reduction of hydrocarbon production. Thus, thermochemical treatment of landfilled plastic wastes using gasification is a very attractive alternative for sustainable waste management
Description: วิทยานิพนธ์ (วศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2553
Degree Name: วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต
Degree Level: ปริญญาโท
Degree Discipline: วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/61856
Type: Thesis
Appears in Collections:Eng - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
5170373021_2553.pdf3.7 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.