การประยุกต์ใช้ไมโครฟิลเตรชันเมมเบรนในถังปฏิกรณ์ชีวภาพ สำหรับบำบัดน้ำเสียจากโรงงานสุรา

Abstract

งานวิจัยนี้ศึกษาความสามารถในการบำบัดน้ำเสียจากโรงงานสุรา โดยใช้ไมโครฟิลเตรชันเมมเบรนซึ่งจมตัวอยู่ในถังปฏิกรณ์ชีวภาพ โดยเน้นที่น้ำกากส่าที่ออกจากหอกลั่น ในการศึกษาครั้งนี้ ได้ดำเนินการทดลองในสัดส่วนของระบบทดลอง ซึ่งออกแบบ และสร้างขึ้นใหม่ น้ำเสียที่เข้าสู่ระบบนำมาจาก น้ำกากส่าที่ออกจากหอกลั่น แล้วนำมาเจือจางด้วยน้ำประปา 227 200 และ 133 เท่า สำหรับค่าภาระสารอินทรีย์ที่ 0.22 0.25 และ 0.375 กก.บีโอดี/กก.เอ็มแอลวีเอสเอส-วัน ตามลำดับ ในการวิจัยแบ่งเป็น 3 การทดลอง คือ การทดลองที่ 1 ศึกษารอบการเติมอากาศที่ 60 นาที และ 90 นาที ผลปรากฏว่า การกำจัดซีโอดี ฟอสฟอรัส และสี มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน แต่รอบการเติมอากาศ 90 นาที สามารถกำจัดไนโตรเจนได้ดีกว่าเล็กน้อย คุณภาพน้ำที่ออกจากระบบผ่านมาตรฐานน้ำทิ้งของกรมโรงงานอุตสาหกรรม จึงสรุปได้ว่า รอบการเติมอากาศที่ 60 นาทีเพียงพอ ต่อการดำเนินการในงานวิจัยนี้ การทดลองที่ 2 ศึกษาผลของภาระสารอินทรีย์ที่มีต่อระบบ ซึ่งใช้ค่าภาระสารอินทรีย์ที่ 0.22 0.25 และ 0.375 กก.บีโอดี/กก.เอ็มแอลวีเอสเอส-วัน สามารถสรุปได้ว่าภาระสารอินทรีย์ที่ใช้ในการทดลองนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการของระบบ คุณภาพน้ำออกในแต่ละชุด การทดลองผ่านมาตรฐานน้ำทิ้งของกรมโรงงานอุตสาหกรรม การทดลองที่ 3 ศึกษาผลของอายุสลัดจ์ที่มีต่อระบบ ผลปรากฏว่า อายุสลัดจ์ที่ 50 วัน ระบบมีประสิทธิภาพในการดำเนินการมากกว่า โดยที่คุณภาพน้ำใกล้เคียงถัน และผ่านมาตรฐานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม จากทั้ง 3 การทดลองสรุปได้ว่าระบบที่เหมาะสมคือ รอบการเติมอากาศ 60 นาที และควบคุมอายุสลัดจ์ที่ 50 วัน ซึ่งสามารถกำจัดซีโอดีได้ 96.67 % กำจัดไนโตรเจนได้ 87.77 % กำจัดฟอสฟอรัสได้ 98.32 % และลดสีได้ 32.39% และมีค่าใช้จ่ายโดยไม่รวมค่าเสื่อมราคา 220 บาท/ลบ.ม.