Please use this identifier to cite or link to this item: https://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/72319
Title: Modification of human platelet fatty acid composition induced by lecithin-rich fat emulsions with different triacylglycero cores and phospholipic surfaces
Other Titles: การเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบกรดไขมันของเกล็ดเลือดของมนุษย์โดยอิมัลชันไขมันที่มีเลซิทินสูงหลายชนิดซึ่งมีแกนของไตรอะซิลกลีเซอรอลและผิวของฟอสโฟลิปิดต่างกัน
Authors: Supantitra Chanprasert
Advisors: Winai Dahlan
Wichai Cherdshewasart
Other author: Chulalongkorn University. Graduate School
Advisor's Email: [email protected]
[email protected]
Subjects: Cardiovascular system -- Diseases -- Prevention
Omega-3 fatty acids
Emulsions
ระบบหัวใจและหลอดเลือด -- โรค -- การป้องกัน
กรดไขมันโอเมกา 3
อิมัลชัน
Issue Date: 1997
Publisher: Chulalongkorn University
Abstract: Platelets are the major cells that produce eicosanoids such as prostaglandin (PG) from membranes unsaturated fatty acids (PUFA) : EPA and arachidonic acid (AA). AA-derived PGs are provasoconstrictory and proaggregatory whereas EPA-derived PGs yields the opposite properties. EPA and other n-3 PUFA; DHA, replace AA in membranes and turn cell to be antiatherogenic and antithrombogenic which consequently prevent the body from stroke and cardiovascular disease. In our previous experiment, we disigned lecithin-rich fat emulsions (LRFE) with high proportion of DHA in phospholipid moiety. This novel emulsion was able to supply n-3 PUFA effectively to red blood cells. The purpose of the present study was whether our four LRFE’s with lecithins derived from fish meal (FM-LRFE), soya (SY-LRFE), soya cored with fish oil (SL-FOFE) and egg yolk which was commercially available (20% Lipofundin), restructured n-3/n-6 PUFA ratio of platelet membranes. Platelet concentrates (PC) were prepared and provided for the experiment from Thai Red Cross. They were incubated for 1 h at 22 °C with each freshly prepared LRFE at the phospholipid (PL) concentrations of 0, 100, 300, 600 mg/dl incubation mixture and platelet concentration of approximately 1.86x10⁹ cells/ml. The increased ratio of n-3/n-6 PUFA of platelets after incubation with FM-LRFE at 600 mg PL/dl autologous plasma was 1.8 times lower than the mixture with plasma free. In addition, all altered fatty acids on platelets were maintained in plasma-free condition for at least 5 h. Incubation with FM-LRFE, the increase of n-3/n-6 PUFA ratio was dose dependent (Y=0.16+3E-04 X ,p<0.001). The ratio elevation appeared with much less extent under incubation condition with SY-LRFE (Y=0.143+3E-05X, p<0.005). The latter showed EPA and DHA decreased whereas major n-3 PUFA, alpha-linolenate (ALA), increased. Incubation with SL-FOFE demonstrated that n-3 PUFA in emulsion’s core provided trace effect to the fatty acid exchanges occurred on the surface. The 20% Lipofundin gave the least alteration of platelet fatty acids. In conclusion: platelet membranes’ PUFA profiles is able to be restructured as needed. FM-LRFE supplies n-3 PUFA whereas SY-LRFE provides n-6 PUFA to the platelet membranes. The higher n-3/n-6 PUFA ratio of platelet membranes is benefit for the production of antithrombogenic PG.
Other Abstract: เกล็ดเลือดเป็นเซลล์หลักที่ผลิตสารไอโคสะนอยด์ เช่น พรอสตาแกลนดินจากกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวสูง คือ กรดไอโคสะเพนตะอิโนอิก (EPA) และกรดอะรัชชิโดนิก (AA) พรอสตาแกลนดินที่สร้างจาก AA เกี่ยวข้องกับการหดตัวของหลอดโลหิตและการจับกลุ่มกันของเกล็ดเลือดในขณะที่พรอสตาแกลนดินจากEPA มีคุณสมบัติตรงกันข้าม EPAและกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงกลุ่มโอเมก้าสาม (n-3 PUFA) เช่นโดโคสะเฮกสะอิโนอิก (DHA) จะเข้าไปแทนที่ AA ในเมมเบรนและเปลี่ยนการทำงานของเซลล์ให้ยับยั้งการจับตัวสะสมกันของไขมันตามผนังหลอดเลือดและการรวมตัวกันเกิดลิ่มเลือดซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดการอุดตันอย่างเฉียบพลันของหลอดเลือดในสมอง (stroke) และโรคหัวใจและหลอดเลือด ในการศึกษาก่อนหน้านี้ได้มีการออกแบบอิมัลชันไขมันที่มีเลซิทินสูง (LRFE) ซึ่งมีสัดส่วนของ DHAสูงในส่วนของฟอสโฟลิปิด อิมัลชันไขมันชนิดใหม่นี้สามารถจ่าย n-3 PUFA ให้กับเม็ดเลือดแดงได้อย่างมีประสิทธิภาพ จุดมุ่งหมายของการวิจัยครั้งนี้เพื่อศึกษาถึงผลของอิมัลชันไขมัน 4 ชนิดซึ่งเตรียมจากเลซิทินจากปลาป่น (FM-LRFE) ถั่วเหลือง (SY-LRFE) ถั่วเหลืองที่มีแกนเป็นน้ำมันปลา (SL-FOFE) และเลซิทินจากไข่แดงของไข่ไก่ (20%Lipofundin) ต่อการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนของ n-3/n-6 PUFA บนเมมเบรนของเกล็ดเลือด นำเกล็ดเลือดเข้มข้นที่มีจำนวนเซลล์ 1.86 x 10⁹ เซลล์ต่อมิลลิลิตรซึ่งได้รับจากสภากาชาดไทยมาทำการทดลองแช่กับอิมัลชันไขมันที่มีเลซิทินสูงที่ความเข้มข้นของฟอสโฟลิปิด 0, 100, 300 และ 600 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรเป็นเวลา 1 ชั่วโมงที่ 22 องศาเซลเซียส สัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของ n-3/n-6 PUFA ของเกล็ดเลือดหลังจากแช่กับ FM-LRFE ที่ 600 มิลลิกรัมฟอสโฟลิปิดต่อเดซิลิตรในภาวะที่มีพลาสมามีค่าต่ำกว่าภาวะที่ไม่มีพลาสมาประมาณ 1.8 เท่า นอกจากนี้ยังพบว่ากรดไขมันที่เปลี่ยนแปลงบนเกล็ดเลือดในภาวะไม่มีพลาสมาสามารถคงสภาพอยู่ได้ไม่น้อยกว่า 5 ชั่วโมง การแช่กับ FM-LRFE สัดส่วนของ n-3/n-6 PUFAจะเพิ่มขึ้นตามความเข้มข้นของอิมัลชันดังสมการ Y= 0.16 + 3E-04X, p<0.001 ในขณะที่การแช่กับ SY-LRFE การเพิ่มขึ้นของ n-3/n-6 PUFA ตามความเข้มข้นของอิมัลชัน Y= 0.143 + 3E-05X, p<0.005 ซึ่งจากผลสรุปแสดงให้เห็นว่า EPA และ DHA มีการลดลง ในขณะที่มีการเพิ่มขึ้นของกรดอัลฟาไลโนลินิก (ALA) ซึ่งเป็นกรดไขมันหลักของกรดไขมันกลุ่มโอเมก้าสามการแช่กับ SL-FOFE แสดงให้เห็นว่ากรดไขมันกลุ่มโอเมก้าสามในส่วนแกนของอิมัลชันมีผลเพียงเล็กน้อยต่อการเปลี่ยนแปลงของกรดไขมันบนผิวของเกล็ดเลือด สำหรับการแช่ใน 20% Lipofundin นั้นพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของกรดไขมันน้อยที่สุด การศึกษาครั้งนี้สามารถปรับเปลี่ยนองค์ประกอบ PUFA บนเมมเบรนของเกล็ดเลือดตามที่ต้องการได้ FM-LRFE สามารถจ่าย n-3 PUFA ในขณะที่ SY-LRFE ให้ n-6 PUFA แก่เมมเบรน สัดส่วนของ n-3/n-6 PUFA ที่เพิ่มขึ้นบนเมมเบรนของเกล็ดเลือดนั้นมีประโยชน์ต่อการสร้างสารพรอสตาแกลนดินซึ่งมีผลยับยั้งการเกิดลิ่มเลือดอันเป็นผลดีต่อการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด
Description: Thesis (M.Sc.)--Chulalongkorn University, 1997
Degree Name: Master of Science
Degree Level: Master's Degree
Degree Discipline: Biotechnology
URI: http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/72319
ISBN: 9746389122
Type: Thesis
Appears in Collections:Grad - Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Supantitra_ch_front_p.pdfหน้าปก และ บทคัดย่อ1.34 MBAdobe PDFView/Open
Supantitra_ch_ch1_p.pdfบทที่ 1369.99 kBAdobe PDFView/Open
Supantitra_ch_ch2_p.pdfบทที่ 21.62 MBAdobe PDFView/Open
Supantitra_ch_ch3_p.pdfบทที่ 32.8 MBAdobe PDFView/Open
Supantitra_ch_ch4_p.pdfบทที่ 41.89 MBAdobe PDFView/Open
Supantitra_ch_ch5_p.pdfบทที่ 5801.62 kBAdobe PDFView/Open
Supantitra_ch_back_p.pdfบรรณานุกรม และ ภาคผนวก3.5 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.